วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
Logo “ฉลากเขียว” ของไทย
Concept Logo คือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นคุณภาพที่ดี ได้มาตรฐานสากลโลก จึงออกแบบให้มีความเป็น Unity ของคุณภาพที่ดี และเลือกใช้สีที่สื่อว่ามาจากธรรมชาติ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสินค้านั้นเป็นสินค้าที่ไม่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
ออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
1. ฟิชเฮาส์ บ้านพักตากอากาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“ฟิชเฮ้าส์” บ้านพักสุดหรูสไตล์โมเดิร์นดังที่เห็นในภาพ ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศสิงคโปร์ จึงเน้นให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย สามารถเปิดรับแสงสว่าง สายลม พร้อมทั้งชมจันทร์และวิวที่สวยงามของท้องทะเลทางด้านนอกได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการระบายอากาศด้วยวิธีธรรมชาติไปในตัว
แนวคิดหลักในการออกแบบบ้านหลังนี้ คือ การสร้างบ้านให้ผู้อยู่อาศัยได้แนบชิดและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ โดยใช้สระว่ายน้ำเป็นตัวเชื่อมระหว่างตัวบ้านกับภูมิทัศน์ทางด้านนอก ทั้งยังให้มุมมองที่เชื่อมต่อและสอดรับกับท้องทะเล
แนวคิดดังกล่าวยังรวมถึงการออกแบบให้ “มีเดียรูม” หรือห้องดูหนังฟังเพลงที่อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน มีผนังที่ทำด้วยกระจกอะครีลิกรูป “ตัวยู” เพื่อให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้าถึง และยังมองเห็นสระว่ายน้ำที่โอบล้อมอยู่บริเวณด้านนอกอีกด้วย
ส่วนบริเวณหลังคาได้รับการออกแบบให้มี ลักษณะเป็นรูปโค้ง อันเป็นสัญลักษณ์ของเกลียวคลื่นซึ่งแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับท้องทะเล และเพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นบ้านประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง บริเวณดังกล่าวจึงถูกติดตั้งแผงพีวีหรือแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (ชนิดบางและโค้งงอได้) แบบเต็มพื้นที่ เพื่อให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับใช้งานในบ้านทั้งหลัง
สำหรับหลังคาบางส่วนที่ไม่ได้ติดตั้งแผง พีวี ก็ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็น “กรีนรูฟ” หรือหลังคาที่มีสนามหญ้าและต้นไม้อยู่ทางด้านบน เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งยังสามารถขึ้นไปเดินเล่นและชมวิวได้
แม้แต่ระเบียงหรือลานด้านนอกที่เชื่อมต่อ กับห้องนอนใหญ่ ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นสนามหญ้าเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ “ฟิชเฮ้าส์” จึงเป็นบ้านพักตากอากาศที่มอบทั้งความหรูหรา สะดวกสบาย และยังช่วยให้ผู้พักอาศัยได้ใช้ชีวิตแบบเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างแท้ จริง
_________________________________________________________________________
2. EcoHouse นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยเชิงนิเวศน์
"EcoHouse เป็นแนวคิดในการออกแบบบ้านเพื่อการอยู่อาศัยเชิงนิเวศน์ ที่มุ่งนำองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสานในการออกแบบให้มีความกลม กลืน มีการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ตามหลักการ Recycle อย่างถูกต้อง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานน้อย และที่สำคัญ EcoHouse ต้องสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์สู่ชั้นบรรยากาศของโลก ช่วยชะลอสภาวะโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรม"
โลกยุคปัจจุบันเผชิญกับสภาวะโลกร้อนและปัญหาการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง การออกแบบบ้านสมัยใหม่นี้จึงต้องคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน การมีคุณภาพของการอยู่อาศัยที่ดี เป็นมิตรกับธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อให้บ้านที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ดังนั้นการออกแบบ EcoHouse จึงเป็นคำตอบของการสร้างนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยเชิงนิเวศน์
แม้ว่าประเทศไทยจะมีการพัฒนาเรื่องบ้านประหยัด พลังงานมาไกลแล้ว เพราะตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น หากแต่สาระหลักของการพัฒนา EcoHouse คือ การมุ่งเน้นที่กระบวนการออกแบบและก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยให้มีความกลมกลืน กับธรรมชาติ ระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม เพื่อเอื้อให้ชีวิตการอยู่อาศัยมีคุณภาพมากขึ้น ประหยัดพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี
หัวใจสำคัญของการออกแบบบ้าน EcoHouse อยู่ที่การออกแบบหรือปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม มีการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีจากธรรมชาติ เช่น การใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ ลม แสงแดด ความชื้น ฯลฯ หรือออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทแวดล้อมที่เป็นอยู่
“ฟิชเฮ้าส์” บ้านพักสุดหรูสไตล์โมเดิร์นดังที่เห็นในภาพ ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศสิงคโปร์ จึงเน้นให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย สามารถเปิดรับแสงสว่าง สายลม พร้อมทั้งชมจันทร์และวิวที่สวยงามของท้องทะเลทางด้านนอกได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการระบายอากาศด้วยวิธีธรรมชาติไปในตัว
แนวคิดหลักในการออกแบบบ้านหลังนี้ คือ การสร้างบ้านให้ผู้อยู่อาศัยได้แนบชิดและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ โดยใช้สระว่ายน้ำเป็นตัวเชื่อมระหว่างตัวบ้านกับภูมิทัศน์ทางด้านนอก ทั้งยังให้มุมมองที่เชื่อมต่อและสอดรับกับท้องทะเล
แนวคิดดังกล่าวยังรวมถึงการออกแบบให้ “มีเดียรูม” หรือห้องดูหนังฟังเพลงที่อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน มีผนังที่ทำด้วยกระจกอะครีลิกรูป “ตัวยู” เพื่อให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้าถึง และยังมองเห็นสระว่ายน้ำที่โอบล้อมอยู่บริเวณด้านนอกอีกด้วย
ส่วนบริเวณหลังคาได้รับการออกแบบให้มี ลักษณะเป็นรูปโค้ง อันเป็นสัญลักษณ์ของเกลียวคลื่นซึ่งแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับท้องทะเล และเพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นบ้านประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง บริเวณดังกล่าวจึงถูกติดตั้งแผงพีวีหรือแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (ชนิดบางและโค้งงอได้) แบบเต็มพื้นที่ เพื่อให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับใช้งานในบ้านทั้งหลัง
สำหรับหลังคาบางส่วนที่ไม่ได้ติดตั้งแผง พีวี ก็ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็น “กรีนรูฟ” หรือหลังคาที่มีสนามหญ้าและต้นไม้อยู่ทางด้านบน เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งยังสามารถขึ้นไปเดินเล่นและชมวิวได้
แม้แต่ระเบียงหรือลานด้านนอกที่เชื่อมต่อ กับห้องนอนใหญ่ ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นสนามหญ้าเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ “ฟิชเฮ้าส์” จึงเป็นบ้านพักตากอากาศที่มอบทั้งความหรูหรา สะดวกสบาย และยังช่วยให้ผู้พักอาศัยได้ใช้ชีวิตแบบเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างแท้ จริง
_________________________________________________________________________
2. EcoHouse นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยเชิงนิเวศน์
"EcoHouse เป็นแนวคิดในการออกแบบบ้านเพื่อการอยู่อาศัยเชิงนิเวศน์ ที่มุ่งนำองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสมผสานในการออกแบบให้มีความกลม กลืน มีการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ตามหลักการ Recycle อย่างถูกต้อง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานน้อย และที่สำคัญ EcoHouse ต้องสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์สู่ชั้นบรรยากาศของโลก ช่วยชะลอสภาวะโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรม"
โลกยุคปัจจุบันเผชิญกับสภาวะโลกร้อนและปัญหาการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง การออกแบบบ้านสมัยใหม่นี้จึงต้องคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน การมีคุณภาพของการอยู่อาศัยที่ดี เป็นมิตรกับธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อให้บ้านที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ดังนั้นการออกแบบ EcoHouse จึงเป็นคำตอบของการสร้างนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยเชิงนิเวศน์
แม้ว่าประเทศไทยจะมีการพัฒนาเรื่องบ้านประหยัด พลังงานมาไกลแล้ว เพราะตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น หากแต่สาระหลักของการพัฒนา EcoHouse คือ การมุ่งเน้นที่กระบวนการออกแบบและก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยให้มีความกลมกลืน กับธรรมชาติ ระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม เพื่อเอื้อให้ชีวิตการอยู่อาศัยมีคุณภาพมากขึ้น ประหยัดพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี
หัวใจสำคัญของการออกแบบบ้าน EcoHouse อยู่ที่การออกแบบหรือปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม มีการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีจากธรรมชาติ เช่น การใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ ลม แสงแดด ความชื้น ฯลฯ หรือออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทแวดล้อมที่เป็นอยู่
สารคดี HOME
ภาพยนตร์สารคดีที่เสนอเนื้อหาความเป็นไปของโลกและการพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ซึ่งเมื่อเรามองในมุมมองที่กว้างขึ้นและดูถึงสภาพจริงๆในแบบที่เป็นองค์รวม มากขึ้นเราก็เข้าใจได้ไม่ยากถึงมนุษย์เราไม่ว่าจะชาติไหน เผ่าพันธุ์ไหน มีลักษณะทางกายภาพต่างกันอย่างไร มีวัฒนธรรมต่างกันอย่างไร เราก็คือมนุษย์ เราเป็นมนุษย์เหมือนกันเราเป็นพวกเดียวกันทั้งหมด โลกให้อะไรกับเรามากมายนัก ความซับซ้อนของธรรมชาติและผลงานการ
สิ่งที่ชอบจากภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้
ชอบถึงการนำเสนอ มุมมองความคิดในแบบภาพรวมของความสัมพันธ์ขนาดใหญ่ที่จริงๆแล้วก็มีหลักไม่ ซับซ้อน เพียงแค่มันมีสิ่งที่มีความสัมพันธ์กันอยู่เยอะเท่านั้นเอง หลักของความสัมพันธ์พื้นฐานยังคงเป็นแบบเรียบง่ายและมีเหตุผลในความเป็นไปเปิด มุมมองของคนที่ยังไม่รู้เรื่องราวต่างๆในมุมกว้างนัก ได้เปิดหูเปิดตาว่าโลกและมนุษย์ส่วนใหญ่กำลังก้าวไปอยู่ในจุดไหนแล้วภาพ สวยมาก
สิ่งที่ได้รับจากภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้
ได้เปิดหูเปิดตาถึงโลกที่ เราอาศัยอยู่ตอนนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง มนุษย์เรานั้นตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง ปัญญาเกี่ยวกับธรรมชาติ การลำดับความสำคัญของการดำเนินชีวิต ได้เรียนรู้ประสบการณ์ผ่านการบอกเล่าของบุคคลที่ได้มองเห็นมาก่อนด้วยภาพและ เสียงอย่างชัดเจน
ข้อเสนอแนะ
สื่อและเนื้อหา นั้นมีพลังมาก ขอให้เนื้อที่นำเสนอเป็นความจริงที่สุดเท่าที่สามารถจะเป็นไปได้ ไม่อยากให้มีการบิดเบียนข้อมูลเลย
List
1.มนุษย์ผู้มีปัญญา
2.ความสมดุล
3.เจริญ
4.เที่ยง ตรง
5.แก้ปัญหา
6.ปรับสภาพ
7.สิ่งที่มีค่า วัดกันที่ความสำคัญและการเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ต่อ ความสมดุล ระบบ และที่สำคัญคือ มีผลต่อ
สิ่งที่ชีวิต
8.ในธรรมชาติทุกอย่างเชื่อมโยง กัน
9.ความต้องการไม่รู้จบ
10.การเอาตัวรอด
Design Hero
SRETSIS
Sretsis (อ่านว่า “สเรทซิส”) เป็นคำกลับของคำว่า SISTERS backward เป็น คำว่า Sretsis โดยเปิดตัว ตั้งแต่ปี 2002 โดยสามพี่น้อง "สุขะหุต" โดยมีคุณ พิมพ์ดาวที่จบจากสถาบันออกแบบแฟชั่น Parsons ใน อเมริกา เป็นดีไซน์เนอร์ คุณคล้ายเดือน เป็น Marketing Manager และคุณ มทินา รับหน้าที่ออกแบบเครื่องประดับ Matina Amanita ซึ่งเป็นหนึ่งในไลน์สินค้าของ Sretsis
วันนี้ Sretsis ขยายอาณาเขตเข้าไปอยู่ในร้านค้ากว่า 20 แห่งทั่วอเมริกา และ อีกกว่า 20 แห่งในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และล่าสุด ห้างดังในฮ่องกง Lane Crawford ก็เจรจาขอซื้อ คอลเลคชั่นล่าสุดไปขายแล้วตอนนี้แบรนด์ก็ตั้งเป้าที่จะไปสู่ยุโรปต่อไป
แบรนด์ Sretsis สร้างความแตกต่าง ชัดเจนในการนำเสนอโดยเน้นเสื้อผ้าวินเทจ บวกกับความหรูหรา สนุกสนาน แต่ขณะเดียวกันก็สื่อถึงผู้หญิงในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ทั้งยังโดดเด่นในเรื่อง Pattern และการออกแบบ รวมไปถึงการพัฒนาผ้าเฉพาะสำหรับแต่ละคอลเลคชั่น ตั้งแต่ signature ผ้าไหมชีฟองพิมพ์ลาย ซาติน เทคนิคการปัก ทอ ในรูปแบบใหม่ และยังมีผ้าไหมลายทอพิเศษอีกด้วย
เป็นที่กล่าวกันว่า Sretsis เริ่มเป็นที่รู้จักใน อเมริกา เมื่อ Paris Hilton และ Nicky Hilton ถูกปาปารัสซี่ถ่ายภาพในขณะที่พวกเธอใส่เสื้อผ้าแบรนด์ Sretsis หลังจากนั้นสาวๆทั่วอเมริกาก็ เริ่มเสาะหาเสื้อผ้าแบรนด์นี้มาใส่กันบ้าง
Sretsis (อ่านว่า “สเรทซิส”) เป็นคำกลับของคำว่า SISTERS backward เป็น คำว่า Sretsis โดยเปิดตัว ตั้งแต่ปี 2002 โดยสามพี่น้อง "สุขะหุต" โดยมีคุณ พิมพ์ดาวที่จบจากสถาบันออกแบบแฟชั่น Parsons ใน อเมริกา เป็นดีไซน์เนอร์ คุณคล้ายเดือน เป็น Marketing Manager และคุณ มทินา รับหน้าที่ออกแบบเครื่องประดับ Matina Amanita ซึ่งเป็นหนึ่งในไลน์สินค้าของ Sretsis
วันนี้ Sretsis ขยายอาณาเขตเข้าไปอยู่ในร้านค้ากว่า 20 แห่งทั่วอเมริกา และ อีกกว่า 20 แห่งในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และล่าสุด ห้างดังในฮ่องกง Lane Crawford ก็เจรจาขอซื้อ คอลเลคชั่นล่าสุดไปขายแล้วตอนนี้แบรนด์ก็ตั้งเป้าที่จะไปสู่ยุโรปต่อไป
แบรนด์ Sretsis สร้างความแตกต่าง ชัดเจนในการนำเสนอโดยเน้นเสื้อผ้าวินเทจ บวกกับความหรูหรา สนุกสนาน แต่ขณะเดียวกันก็สื่อถึงผู้หญิงในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว ทั้งยังโดดเด่นในเรื่อง Pattern และการออกแบบ รวมไปถึงการพัฒนาผ้าเฉพาะสำหรับแต่ละคอลเลคชั่น ตั้งแต่ signature ผ้าไหมชีฟองพิมพ์ลาย ซาติน เทคนิคการปัก ทอ ในรูปแบบใหม่ และยังมีผ้าไหมลายทอพิเศษอีกด้วย
เป็นที่กล่าวกันว่า Sretsis เริ่มเป็นที่รู้จักใน อเมริกา เมื่อ Paris Hilton และ Nicky Hilton ถูกปาปารัสซี่ถ่ายภาพในขณะที่พวกเธอใส่เสื้อผ้าแบรนด์ Sretsis หลังจากนั้นสาวๆทั่วอเมริกาก็ เริ่มเสาะหาเสื้อผ้าแบรนด์นี้มาใส่กันบ้าง
Objectified
Objectified เป็นหนังสารคดีที่พูดถึงการ ออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีผลต่อการใช้ในชีวิตประจำวันของเรา เสนอให้ดูไอเดียของผลิตภัณฑ์ การใช้งานได้จริง และนอกจากจะวนเวียนอยู่กับผู้ออกแบบและผู้ใช้แล้ว ยังผูก โยงไปหาประเด็นทางสังคมเกี่ยวกับการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับความยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรม คำถามก้อนโตที่ทุกคนเกี่ยวข้องต้องแบกรับเอากลับไปคิดกันต่อ
Objectified มีจุดเด่นอยู่ตรงดาราแสดงนำ หรือจะเรียกให้ถูก ก็ต้องเป็นบรรดาผู้ให้สัมภาษณ์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในวงการออกแบบผลิตภัณฑ์ของโลกในปัจจุบันทั้งสิ้น ความรู้สึกในการชมภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกับดูหนังรักดีๆสักเรื่องหนึ่ง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)